Categories
Windows 11

ถอนการติดตั้งการอัปเดต Windows ที่มีปัญหาได้อย่างง่ายดาย

ถอนการติดตั้งการอัปเดต Windows ที่มีปัญหาได้อย่างง่ายดาย: คู่มือฉบับย่อสำหรับ Windows ของคุณ

บางครั้ง การอัปเดต Windows อาจทำให้เกิดปัญหากับระบบของคุณโดยไม่คาดคิด หากคุณสงสัยว่าการอัปเดตล่าสุดทำให้เกิดปัญหา คุณสามารถถอนการติดตั้งได้ นี่คือวิธีดำเนินการอย่างง่ายดายบนพีซี Windows ของคุณ

ทำไมต้องถอนการติดตั้งการอัปเดต Windows?

  • การแก้ไขปัญหา: หากพีซีของคุณเริ่มทำงานผิดปกติ (เช่น เกิดการขัดข้อง ประสิทธิภาพลดลง หรือซอฟต์แวร์บางตัวทำงานผิดพลาด) ทันทีหลังจากการอัปเดต
  • ปัญหาความเข้ากันได้: การอัปเดตอาจขัดแย้งกับฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์บางตัว

ข้อควรพิจารณาก่อนถอนการติดตั้ง:

  • ระบุตัวการ: พยายามยืนยันว่าการอัปเดตใดเป็นสาเหตุของปัญหา หากเป็นไปได้ ให้จดบันทึกหมายเลข KB
  • ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย: การถอนการติดตั้งการอัปเดตความปลอดภัยอาจทำให้ระบบของคุณมีความเสี่ยง โดยทั่วไปควรเป็นมาตรการชั่วคราว
  • ไม่ใช่ทุกการอัปเดตที่สามารถถอนการติดตั้งได้: การอัปเดตคุณลักษณะ (Feature updates) จะย้อนกลับได้ยากกว่าการอัปเดตคุณภาพ/สะสม (Quality/Cumulative updates)

วิธีถอนการติดตั้งการอัปเดต Windows (ผ่านการตั้งค่า – วิธีที่แนะนำ):

  1. เปิด การตั้งค่า (Settings):

    • คลิกที่ปุ่ม เริ่ม (Start)
    • คลิกที่ไอคอน การตั้งค่า (Settings) (รูปเฟือง ⚙️)
    • หรือกดแป้น Windows + I
  2. ไปที่ Windows Update:

    • ใน Windows 11: เลือก Windows Update จากแถบด้านข้างทางซ้าย
    • ใน Windows 10: คลิกที่ การอัปเดตและความปลอดภัย (Update & Security) จากนั้นเลือก Windows Update
  3. ไปที่ ประวัติการอัปเดต (Update history):

    • มองหาตัวเลือกเช่น “ประวัติการอัปเดต (Update history)” แล้วคลิก
  4. ถอนการติดตั้งการอัปเดต (Uninstall updates):

    • ในส่วน “ประวัติการอัปเดต” ให้ค้นหาและคลิกที่ “ถอนการติดตั้งการอัปเดต (Uninstall updates)
    • หน้าต่างใหม่จะเปิดขึ้น (มักจะเป็นอินเทอร์เฟซของแผงควบคุม) แสดงรายการการอัปเดตที่ติดตั้งแล้วซึ่งสามารถถอนการติดตั้งได้
    • เลือกการอัปเดตที่มีปัญหา (มักจะแสดงตามหมายเลข KB และวันที่ติดตั้ง)
    • คลิก “ถอนการติดตั้ง (Uninstall)” และทำตามคำแนะนำ อาจจำเป็นต้องรีสตาร์ทเครื่อง

ทางเลือก: การใช้แผงควบคุม (Control Panel) (วิธีเก่ากว่า แต่ยังใช้ได้ผล)

  1. เปิด แผงควบคุม (Control Panel):
    • ค้นหา “แผงควบคุม” ในเมนูเริ่ม แล้วเปิดขึ้นมา
  2. ไปที่ โปรแกรม (Programs):
    • คลิกที่ “โปรแกรมและคุณลักษณะ (Programs and Features)” (หรือ “ถอนการติดตั้งโปรแกรม” ใต้หัวข้อ โปรแกรม)
  3. ดูการอัปเดตที่ติดตั้ง (View installed updates):
    • ทางด้านซ้าย ให้คลิกที่ “ดูการอัปเดตที่ติดตั้ง (View installed updates)
  4. ถอนการติดตั้ง (Uninstall):
    • วิธีนี้จะแสดงรายการเดียวกับวิธีผ่านการตั้งค่า เลือกการอัปเดตแล้วคลิก “ถอนการติดตั้ง (Uninstall)

จะทำอย่างไรหากไม่สามารถถอนการติดตั้งการอัปเดตได้?

  • การคืนค่าระบบ (System Restore): หากคุณเปิดใช้งานจุดคืนค่าระบบไว้ คุณสามารถลองเปลี่ยนระบบของคุณกลับไปยังสถานะก่อนที่จะติดตั้งการอัปเดตที่มีปัญหา ค้นหา “สร้างจุดคืนค่า” (Create a restore point) ในเมนูเริ่ม เปิดขึ้นมา แล้วคลิก “การคืนค่าระบบ… (System Restore…)”
  • หยุดการอัปเดตชั่วคราว (Pause Updates): หลังจากถอนการติดตั้งแล้ว คุณอาจต้องการหยุดการอัปเดต Windows ชั่วคราวเพื่อป้องกันไม่ให้การอัปเดตที่มีปัญหากลับมาติดตั้งใหม่ทันที คุณสามารถทำได้ใน การตั้งค่า > Windows Update

สรุป: การถอนการติดตั้งการอัปเดต Windows อาจเป็นขั้นตอนการแก้ไขปัญหาที่มีประโยชน์ อย่างไรก็ตาม ควรดำเนินการด้วยความระมัดระวังเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการอัปเดตความปลอดภัย หากปัญหายังคงอยู่ ลองขอความช่วยเหลือทางเทคนิคเพิ่มเติม